Naruedol Calendar

วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2554

คิงส์ตันเปิดตัว SSDแบบ SATA เทคโนโลยี SandForce ตัวแรก

     บริษัท คิงส์ตัน เทคโนโลยี ประเทศไทย ผู้ผลิตและพัฒนาหน่วยความจำรายใหญ่ของโลก
ประกาศความร่วมมือกับ SandForce Inc. ผู้นำด้านหน่วยประมวลผลสำหรับ SSD (Solid-State Drive) ประสิทธิภาพสูง เปิดตัว HyperX SSD ซึ่งเป็น SSD แบบ SATA Rev 3.0 (6Gb/s) ตัวแรกสำหรับคอเกมส์และผู้ใช้ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน มาพร้อมคอนโทรลเลอร์รุ่นล่าสุดจาก SandForce รวมถึงสามารถเลือกซื้อเป็นชุดอัพเกรด HyperX ได้เพื่อการติดตั้งที่ง่ายดาย
HyperX SSD แบบ SATA Rev 3.0 (6Gb/s) มีให้เลือกทั้งขนาด 120GB และ 240GB โดยมาพร้อมคอนโทรลเลอร์ SandForce SF-2281 มีความเร็วในการอ่าน/เขียนต่อเนื่องสูงถึง 525/480MB/วินาที ความเร็วในการอ่าน/เขียนแบบสุ่ม 4KB สูงสุดถึง 95,000/70,000 IOPS และเทคโนโลยี SandForce DuraClass เพื่อความทนทานเป็นพิเศษ
Kingston HyperX ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งโซลูชั่น DRAM ประสิทธิภาพสูงสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบมาช้านาน และด้วย HyperX SSD ใหม่ล่าสุดจากคิงส์ตันพร้อมขุมพลังจากคอนโทรลเลอร์ SandForce และ NAND ขนาด 25 นาโนเมตร (P/E 5K) จากอินเทล ผู้ใช้จะสัมผัสได้ถึงประสิทธิภาพและความทนทานเหนือระดับได้อย่างที่ต้องการ 


คุณสมบัติเด่นของ Kingston HyperX SSD
  • NAND ขนาด 25 นาโนเมตร (P/E 5K) จากอินเทล
NAND 5K เพื่อความทนทานเหนือกว่า NAND 3K ชนิดมาตรฐาน
  • เทคโนโลยี Wear-Leveling ขั้นสูง
อัลกอริธึมขั้นสูงให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่ามีการใช้งานทุกบล็อกหน่วยความจำแฟลชในอัตราที่สมดุล เพื่อความทนทานและประสิทธิภาพในการใช้งานขั้นสูงสุด
  • ฟีเจอร์ Over Provisioning ให้ผู้ใช้ปรับแต่งได้ตามต้องการ*
HyperX SSD มาพร้อมฟีเจอร์ Over Provisioning ที่ให้ผู้ใช้ปรับแต่งประสิทธิภาพของ SSD ได้ตามต้องการ
  • รองรับ TRIM และ S.M.A.R.T
HyperX SSD รองรับ TRIM และ S.M.A.R.T และมาพร้อมเครื่องมือต่าง ๆ สำหรับให้คอเกมและผู้ใช้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานและความทนทานของคอมพิวเตอร์ได้ตามต้องการ
  • เทคโนโลยี DuraClass
เทคโนโลยี DuraClass เป็นการรวมฟีเจอร์เพื่อการจัดการ NAND Flash ที่ทำงานควบคู่กันเพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน ความเชื่อถือได้และการประหยัดพลังงานที่โดดเด่นและแตกต่างจากคอนโทรเลอร์ Flash ทั่วไป
  • ชุดอัพเกรด HyperX ประกอบด้วย
    • Acronis True Image HD Migration Software
    • 2.5″ Desktop Mounting Plate
    • HyperX USB External Drive Bay
    • HyperX Multi-Head Screwdriver
    • HyperX SATA Data Cable
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก

ว้าว!!! เปลี่ยนไอโฟนเป็น"ปืนเล่นเกมส์"

      ไอเดียของการพัฒนาอุปกรณ์เสริมการใช้งานสำหรับไอโฟน (iPhone) ไม่เคยสิ้นสุดจริงๆ ซึ่งหากพูดถึงเกมส์คอนโซล คุณผู้อ่านคงจะจำ Nintendo Wii ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ WiiMote ที่มีอุปกรณ์เสริมมากมายเปลียนให้มันเป็นพวงมาลัย ไม้แบต ไปจนถึงปืน เพื่อให้ผู้เล่นได้ประสบการณ์ในการเล่นเกมส์แอคชั่นมากขึ้น ล่าสุดไอเดียคล้ายกันนี้ได้ถูกนำไปประยุกต์ใช้กับ iPhone แล้ว...ว้าว!!!

      appBlaster gun เป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับการเล่นเกมส์ด้วย iPhone หรือ iPod Touch โดยปืน appBlaster จะมาพร้อมกับช่องที่สามารถล็อค iPhone ให้ติดอยู่บนลำกล้องของปืน เพื่อให้ผู้เล่นสามารถมองเห็นหน้าจอเกมส์ได้อย่างถนัดเวลาถือปืนเล็งเป้าหมายต่างๆ ที่ปรากฎในจอ iPhone นอกจากนี้ส่วนที่เป็นกลไกของไกปืนยังมีกระเดื่องอยู่ภายในที่จะคอยกดสัมผัสบนหน้าจอ iPhone บนตำแหน่งปุ่มสัมผัสในเกมส์ เวลาที่ผู้เล่นกดไกปืน


         ไอเดียของ appBlaster gun ยังไม่หมดแค่การเปลี่ยน iPhone ให้เป็นปืนที่สามารถกดเล่นเกมส์ได้เท่านั้น แต่เกมส์ที่เล่นยังสนุกกว่าที่คุณผู้อ่านคาดคิดเสียอีก โดยเฉพาะเกมส์ Allien Attack ที่ใช้เทคโนโลยี Augmented Reality ด้วยการซ้อนกราฟิกของตัวเกมส์ไปบนแบคกราวด์ที่จับภาพจากกล้องหลัง ผู้เล่นจะต้องเล็ง appBlaster gun ใส่ตัวเกมส์กราฟิก เพื่อยิงให้โดน นอกจากนี้ เกมส์ดังกล่าวยังทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ Accelerometer ด้วย ดังนั้นเวลากระสุนหมด แค่ผู้เล่นกระดกปืนขึ้น มันก็จะโหลดกระสุนเข้าไปใหม่ appBlaster ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ และเกมส์ Alien Attack ก็สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจาก app store แต่ appBlaster gun ต้องใช้เงินซื้อด้วยราคา 32 เหรียญฯ หรือประมาณ 1,000 บาท และจะเริ่มวางตลาด 6 กรกฎาคม ศกนี้


ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก


ญี่ปุ่นโชว์เมาส์รุ่นใหม่ควบคุมด้วยนิ้วทั้ง 5

     เมาส์ทุกวันนี้อาจจะตอบโจทย์การใช้งานสำหรับผู้ใช้ทั่วไป แต่หากเป็นงานทางด้านกราฟิก 3D แอนิเมชัน การใช้เมาส์ควบคุมอาจจะไม่สะดวกนัก โดยเฉพาะการพลิกหมุนดีไซน์ของวัตถุ 3D บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ล่าสุดบริษัท Double Research & Development Co. ในญี่ปุ่นได้พัฒนาเมาส์รุ่นใหม่ที่ใช้นิ้วทั้ง 5 ในการควบคุม


         สำหรับเมาส์ที่ใช้งานด้วยนิ้ว 5 นิ้วจะประกอบด้วยส่วนรองรับอุ้งมือ เพื่อหย่อนนิ้วทั้ง 5 ลงบนปุ่มที่ใช้เซ็นเซอร์รับแรงกดที่สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยการใช้แต่ละนิ้วลากไปมาดังรูป โดยการออกแรงกด และขยับเลื่อนแต่ละนิ้วบนเมาส์จะมีการส่งค่าตำแหน่ง และแรงกดเข้าไปยังโปรแกรมควบคุมการใช้งาน เพื่อแปลงค่าเป็นโคออร์ดิเนตของแกน X, Y, Z ของวัตถุ 3D ที่ออกแบบไว้บนหน้าจอ ซึ่งนั่นหมายความว่า ผู้ใช้เมาส์ 5 นิ้วจะสามารถหมุนวัตถุ ไปพร้อมๆ กับซูมเข้าออกได้ด้วยมือเดียว เรียกได้ว่า คุณสามารถปั้นแต่งโมเดล 3D ด้วยนิ้วทั้ง 5 ของคุณได้เลย สำหรับ Double Research & Development เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบควบคุมมือหุ่นยนต์ ดังนั้นการพัฒนาเมาส์ที่ควบคุมด้วยนิ้วทั้ง 5 จึงเป็นไอเดียต่อยอดจากความถนัดของบริษัท เราไปดูความน่าทึ่งในการทำงานของเมาส์แปลกๆข

 

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก

Nokia Windows Phone เครื่องแรก!!!

         Stephen Elop ซีอีโอของ Nokia เผยโฉมผลิตภัณฑ์ที่ถือเป็นความลับสุดยอดของบริษัท นั่นก็คือ สมาร์ทโฟนของ Nokia รุ่นแรกที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows Phone 7 ซึ่งมีโค้ดเนมว่า Sea Ray โดยภาพที่ปรากฎในคลิปวิดีโอ ดีไซน์ของตัวเครื่องดูคล้าย Nokia N9 ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมามากทีเดียว

    อย่างไรก็ตาม Elop ไม่ได้เปิดเผยถึงสเป็กที่อยู่ภายใน Nokia Windows Phone แต่หากอ้างอิงสเป็กของ N9 มันก็น่าจะประกอบด้วยหน้าจอสัมผัส AMOLED ขนาด 3.9 นิ้ว กระจกที่กันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี กล้อง 8 ล้านพิกเซล และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี NFC (Near Field Communication) ที่สามารถใช้สมาร์ทโฟนแทนกระเป๋าสตางค์ได้ แม้ Sea Ray จะดูเผินๆ คล้าย N9 แต่มันมีปุ่มพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาด้วยนั่นคือ ปุ่ม Shutter ของกล้อง เพื่อให้สามารถใช้กล้องถ่ายรูปได้ทันทีที่ต้องการ ส่วนโพรเซสเซอร์ในเครื่องก็น่าจะมีความเร็ว 1GHz และสตอเรจตั้งแต่ 16 ถึง 64GB 



     Elop ยังไม่ได้เปิดเผยถึงกำหนดการวางตลาดของ Sea Ray หรืออุปกรณ์ Windows Phone อื่นๆ แต่คาดการณ์กันว่า น่าจะเป็นช่วงปลายปีนี้ "อย่างไรก็ตาม นี่เป็นแค่ (Nokia Windows Phone) เครืองแรก" Elop กล่าวกับผู้เข้าร่วมประชุม "ผมยังมีรุ่นอื่นๆ ที่แตกต่างจากที่เห็นนี้โดยสิ้นเชิง ซึ่งทำงานได้ดี และเรากำลังทำให้มันมีพัฒนาการที่เหนือชั้น" Elop พูดถึงการสาธิตมือถือ Nokia Windows Phone ครั้งนี้ พร้อมทั้งกล่าวย้ำว่า Nokia ต้องการสร้างความสามารถในการแข่งขัน เพื่อกลับมายืนอยู่ในตำแหน่งผู้นำตลาดอีกครั้ง

 


ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก

กล้องมหัศจรรย์ภาพถ่าย"ปรับโฟกัส"ได้

        Lytro บริษัทไฮเทคฯ น้องใหม่ล่าสุดของวงการประกาศเปลี่ยนโลกเทคโนโลยีของกล้องถ่ายรูปดิจิตอล ซึ่งทางกองบรรณาธิการเว็บไซต์ arip รับรองว่า มันจะทำให้คุณผู้อ่านต้องทึ่งในนวตกรรมของพวกเขาอย่างแน่นอน นับตั้งแต่ครั้งที่โลกของกล้องถ่ายรูปได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากฟิล์มสู่ดิจิตอลมาแล้ว


     Lytro กำลังพัฒนากล้องถ่ายรูปดิจิตอลชนิดใหม่ที่คาดว่าจะวางตลาดได้ในช่วงปลายปีนี้ โดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า "Light field" ซึ่งความลับของภาพถ่ายที่ใช้เทคโนโลยี Light field ผลงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนด์ฟอร์ด ก็คือ การเก็บภาพที่ถ่ายจากแสงที่ตกกระทบวัตถุเข้ามายังกล้องทุกทาง และทุกจุดตั้งแต่ฟอร์กราวด์ไปจนถึงแบคกราวด์ นั่นหมายความว่า ภาพที่ถ่ายได้จะไม่มีการโฟกัสใดๆ ทั้งสิ้น จนกว่าจะโหลดเข้าไปในคอมพิวเตอร์ เพื่อทำการเลือกตำแหน่งโฟกัสในภาพที่ต้องการภายหลัง (พูดง่ายๆ ก็คือ มันเป็นภาพที่ทำให้คุณสามารถถ่ายภาพไว้ก่อน แล้วค่อยไปปรับโฟกัสทีหลังบนคอมพิวเตอร์ :O) ผู้ชมภาพสามารถคลิกบนบริเวณใดๆ ของภาพ เพื่อโฟกัสให้ชัดเจนขึ้นมาได้...มหัศจรรย์จริงๆ


              Ren Ng ซีอีโอ และผู้ก่อตั้ง Lytro ตั้งแต่ปี 2006 หลังจากที่เขาสำเร็จปริญญานิพนธ์ที่ว่าด้วยเรื่องของเทคโนโลยี Light field photography ภาควิชา Computer Science ที่ Standford ในปีเดียวกัน โดยผลงานวิจัยของเขายังได้รับรางวัลชนะเลิศอีกด้วย ก่อนหน้านั้นภาพถ่าย Light field จะต้องใช้กล้องหลายร้อยตัวต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ทรงพลัง เพื่อสร้างภาพที่มีคุณสมบัติดังกล่าว (เก็บแสงได้ทุกจุดทั้งใกล้ และไกล หรือฟอร์กราวด์ และแบคกราวด์) แต่ล่าสุด Lytro สามารถพัฒนาเซ็นเซอร์ชนิดใหม่ที่สามารถใส่แทนที่เซ็นเซอร์กล้องดิจิตอลทั่วไป เพื่อให้มันสามารถเก็บรังสีของแสงที่เข้ามาตกกระทบได้ทั้งหมด ทางบริษัทยังได้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่เปลี่ยนข้อมูลดังกล่าวเป็นภาพที่สามารถปรับโฟกัสบนคอมพิวเตอร์ได้ด้วยการคลิกบนตำแหน่งที่ต้องการได้อีกด้วย


       Lytro จะทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายรูปได้เร็วขึ้นกว่าเดิมมาก เนื่องจากพวกเขาไม่ต้องสนใจว่า จะโฟกัสตรงไหนก่อน ด้วยการกดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่ง เมื่อได้ตำแหน่งก็ลั่นชัตเตอร์ นอกจากนี้ ภาพที่ได้จากกล้องที่ใช้เซ็นเซอร์ Light field ของ Lytro ยังทำให้ช่างถ่ายรูปได้ภาพที่สามารถเปิดเผยถึงสิ่งต่างๆ ทีผู้ชมภาพอาจจะไม่เคยเห็นได้ชัดเจนในอดีตได้อีกด้วย และเนื่องจากกล้อง Lytro สามารถเก็บภาพจากแสงได้ทุกมุมมองเข้ามาในกล้อง ดังนั้น มันจึงสามารถแยกภาพที่มองเห็นด้วยตาซ้าย และขวา เพื่อทำเป็นภาพ 3D ที่สามารถมองเห็นผ่านทางแว่นตา 3 มิติได้อีกด้วย ล่าสุด Lytro กำลังอยู่ในระหว่างการระดมเม็ดเงินลงทุน 50 ล้านเหรียญฯ เพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะวางตลาดได้ในช่วงปลายปีนี้ ลองคลิกโฟกัสทีต้องการจากภาพตัวอย่างข้างล่างนี้ แล้วคุณจะต้องทึ่ง


ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก